รถยนต์

การทำงานด้วยหลักปรัชญาของ Honda

zonda-054

หากท่านผู้อ่านได้ติดตามผลงานของกระผมมาโดยตลอดจะน่าจะรับทราบได้ทันทีเลยครับผมว่าในบทความชุด Honda นั้นกระผมได้มีการพูดถึงเรื่องราวต่างๆนาๆ ของฮอนด้าเอาไว้หลายๆหลายเรื่องยกเว้นเรื่องของกระบวนการปรัชญาในการสร้างงานของฮอนด้าที่ยังไม่ได้มีโอกาสเล่าดังนั้นในบทความตอนนี้เราจึงขออนุญาตทุกท่านเล่าให้ฟังถึงปรัชญาพร้อมทั้งวิสัยทัศน์ของฮอนด้าเพื่อที่บทความชุดนี้จะอาจจะได้คือบทความที่สมบูรณ์แบบใช้อ้างอิงได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะขอรับ

               ยุทธวิธีปรัชญาในการดำเนินงานของฮอนด้านั้นก็เช่นเดียวกับธุรกิจทั่วๆ ไปนั่นแหละครับที่มีความมุ่งเน้นมั่นพร้อมกับพัฒนาของซื้อของขายของตัวเองให้ดี มีศักยภาพ มีความปลอดภัยมากๆขึ้นรวมไปถึงยังจะต้องสร้างความพึงพอใจพร้อมกับความซาบซึ้งให้กับลูกค้าอีกเช่นกัน

               นอกจาการดัดแปลงด้านของซื้อของขายแล้วสิ่งหนึ่งทางฮอนด้าได้วางหลักปรัชญาเอาไว้ให้กับบุคลากรของตนทุกคนก็เป็นการดูแลผู้บริโภคที่มาซื้อของซื้อของขายใช่หรือไม่ใช้บริการเช่นกันความมีน้ำใจไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใสสำหรับที่ลูกค้าจะคงจะได้เกิดความรู้สึกไว้เชื่อใจพร้อมกับจะก็จะได้กลับมาใช้บริการอีกครั้งในภายหลัง

               เทคนิคปรัชญาอีกข้อหนึ่งที่ลูกน้องและบุคลากรจะอาจลืมกันไม่ได้หากยังคงคือพนง.ของ Honda อยู่ก็คือความสนิทสนมกลมเกลียว การทำความสามัคคีในหมู่คณะพร้อมทั้งการทำงานเป็นทีมซึ่งแผนการในข้อนี้จะก็จะไปคล้ายคลึงกับแนวทางใน Toyota Way

               ยุทธวิธีปรัชญาการทำงานของ Honda ที่ผมได้กล่าวมาทั้งหลายนี้คือเพียงแค่แค่ส่วนหนึ่งที่ฉันศึกษามาจากคู่มือพนักงานของฮอนด้าประเทศญี่ปุ่นแค่นั้นซึ่งถ้าใครความหวังทราบขบวนการปรัชญาและรายละเอียดเติมอย่างเจาะลึกถี่ถ้วนก็สามารถลองศึกษาได้จากเพื่อนที่ทำงานอยู่ในบริษัทฮอนด้าหรือในเครือฮอนด้าหรืออาจจะจะอาจจะสอบถามโดยตรงไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือไม่ฝ่ายการท้องตลาดของรถฮอนด้าก็ได้ ไม่ผิดกติกาแต่องย่างใดฮะ

27 May 2014

เรื่องที่ยังดำเนินต่อไปของค่ายรถยนต์ฮอนด้า

zonda-053ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับทุกท่านเพราะว่าตอนแรกนั้นฉันตั้งใจจะจะยุติเรื่องของหุ่นอาซิโม หุ่นยนต์เก่งที่ทาง Honda ได้วิจัยและเปลี่ยนขึ้นมาไปตั้งแต่ตอนที่แล้วแต่บังเอิญอยู่ๆ ก็มีพี่ที่ให้เกียรติคุณหนึ่งที่ทำงานเป็นผู้บริหารอันดับกลางในฮอนด้าได้นำเอาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวโยงกับหุ่นยนต์อาซิโมปึกใหญ่มาเซทติดตั้งไว้บนโต๊ะกระผมซึ่งมื่อผมได้อ่านแล้วพร้อมทั้งเห็นว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจพร้อมทั้งเป็นประโยชน์ต่อทุกคนจึงขออนุญาตนำมาเล่าให้ทุกคุณได้รับฟังกันในวันนี้

               เรื่องแรกสุดที่ถือคือเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยที่อยากเล่าให้ทุกคุณได้รับได้ยินก็คือเรื่องของการทำเจ้าหุ่นอาสิโมนี้ซึ่งเชื่อไหมครับผมว่าหุ่นอัจฉริยะตัวนี้มีแผนที่จะน่าจะสร้างมาตั้งแต่ปี 2529 แล้วแต่เช่นกันการวิจัยพร้อมด้วยพัฒนาที่สลับซับซ้อนผนวกกับเทคโนโลยีที่ยังไม่ดีพอในสมัยนั้นสร้างจึงทำให้การทำหุ่นตัวนี้กินเวลาล่วงเลยไปถึง 15 ปีเลยทีเดียว

               สิ่งต่อมาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าอาซิโมที่ทุกคนควรรับรู้ก็คือก่อนหน้าการถือกำเนิดเจ้าหุ่นอาซิโมนั้นฮอนด้าเองได้ทดลองทำหุ่นยนต์จำลองขึ้นมาเพื่อที่จะใช้งานจริงโดยฮอนด้าได้เคยสร้างหุ่นยนต์มาแล้วถึง 3 รุ่นอีกด้วยกันพร้อมทั้งใช้ Code name ว่า P-Series

               ส่วนเรื่องสุดท้ายที่ควรรับทราบเกี่ยวกับเจ้าอาซิโมก็คือการที่เจ้าอาซิโมเดินใช่หรือไม่วิ่งได้อย่างอิสระและลื่นไหลคล้ายคลึงคนจริงๆ นั้นก็เช่นกันเนื่องจากการใช้เทคโนโลยี IWALK อันเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุดที่คิดขึ้นไปโดยทีมวิศกรชาวเยอรมันนี้นั่นเองฮะ

24 May 2014

คอยจับตา ISUZU

car-0010

ราคารถใหม่ คอยติดตามความเคลื่อนไหวที่สำคัญสุดของเจ้าตลาดรถกระบะในเมืองไทยอย่าง Isuzu เพราะ ในปี 2013 ทาง Isuzu ได้มีการเปิดตัว รถยนต์อเนกประสงค์ รุ่นใหม่ ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานงานวิศวกรรมของD-Max รุ่นล่าสุด เพื่อทำตลาดแทน MU-7 ในชื่อใหม่ MU-X เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งเพิ่มรุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ใหม่ Super Daylight ให้กับD-Max ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ก่อนเข้างาน Motor Expo เพียง 2 วัน

 ในปี 2014 Isuzu จะยังคงไม่ทำอะไรกับ D-Max และ MU-X มากไปกว่าการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลง อุปกรณ์ประจำรถ ออกรุ่นตกแต่งพิเศษ แต่งหน้าทาปาก อาจจะออกรุ่นพิเศษ ตามถนัด แต่จะไม่มีการปรับโฉมใหม่มากมายนัก เพราะในเมื่อยอดขายยังคงเยอะอยู่ แถมคู่แข่งอย่าง Toyota ก็เลื่อนเปิดตัว Hilux รุ่นต่อไปเป็นช่วง ไตรมาส 3 ปี 2015 ดังนั้น จึงยังไม่จำเป็นต้องเร่งเปลี่ยนโฉมใหม่กันราคารถใหม่จึงไม่น่าเปลี่ยนแปลงมากนัก

 แต่พอเข้าสู่ปี 2015 คราวนี้ Isuzu จะเข็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ออกสู่ตลาดเมืองไทย และตลาดโลก เป็นขุมพลัง Diesel 1,900 ซีซี Common-Rail Turbocharger Intercooler ซึ่งถือเป็นการท้าทายแนวคิดของผู้บริโภคเมืองไทยที่มีต่อประเด็นเรื่อง ความจุกระบอกสูบ กับความแรง และความประหยัดน้ำมันอย่างมาก

 อันที่จริง แนวทาง Downsizing เครื่องยนต์ แบบนี้ Isuzu ไม่ใช่รายแรกที่ทำในตลาดรถกระบะเมืองไทย เพราะ Nissan เคยสร้างความฮือฮามาแล้ว ด้วยขุมพลัง YD25 2,500 ซีซี Turbo แปรผัน 174 แรงม้า (PS) เมื่อปี 2007 ตามด้วยTata Xenon ที่เลือกวางขุมพลัง DECOR 2,200 ซีซี ในปี 2008 จากนั้น ก็เป็นFord Ranger / Mazda BT-50 PRO ที่เลือกจะวางขุมพลัง 2,200 ซีซี ลงในรุ่นยอดนิยมทั้งหลาย ในปี 2011 เพียงแต่ที่ผ่านมา ไม่มีค่ายใด กล้าลดความจุกระบอกสูบ ของเครื่องยนต์ Diesel สำหรับรถกระบะในเมืองไทย ลงไปให้ต่ำกว่า 2,000 ซีซี มาก่อน และ Isuzu จะเป็นรายแรกในเมืองไทย ที่จะทำเช่นนั้น

 เครื่องยนต์ใหม่ 1,900 ซีซี นี้ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา และยังต้องใช้เวลาอีกนานพอดูจึงจะทราบข้อมูล หรือรายละเอียดทางเทคนิคเบื้องต้น ที่แน่ๆเครื่องยนต์ใหม่นี้ จะถูกติดตั้งลงใน D-Max ใหม่ รุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่Big-Minorchange ที่จะเปิดตัวในช่วง ครึ่งหลังของ ปี 2015 โดยยังไม่แน่ชัดว่า จะถูกนำไปวางลงใน MU-X ด้วยหรือไม่ และยังไม่แน่ว่าราคารถใหม่จะถูกปรับขึ้นด้วยหรือเปล่า

 แต่ถ้าจะถามถึงรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน Full Model Change ของ D-Max ตอบได้เลยว่า ยังอีกไกล เพราะ Isuzu เพิ่งจะลงนามในบันทึกความเข้าใจMoU (Memorendum of Understand) กับ พันธมิตรเก่า General  Motors เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2013 เพื่อจะกลับมาพัฒนารถกระบะรุ่นต่อไปร่วมกันอีกครั้ง แม้ Isuzu จะปฏิเสธว่า จะไม่มีการขายหุ้นให้กับทาง GM หลังจากที่ฝ่ายอเมริกัน ได้ขายหุ้นกลับคืนไปให้ฝ่ายญี่ปุ่น เมื่อปี 2006 แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน เพราะ GM เอง ก็อยากจะบุกตลาดASEAN ให้ได้มากกว่านี้ ส่วน Isuzu เอง ก็อยากได้พันธมิตร มาช่วยพัฒนารถกระบะ และเครื่องยนต์ เพื่อให้ต้นทุนในการพัฒนา ถูกลง  ในเมื่อทั้งคู่ เพิ่งจะเริ่มต้นคุยกันอีกครั้ง ในปี 2013 ดังนั้น กว่าที่เราจะได้เห็นรถกระบะรุ่นใหม่หมดจดทั้งคันอีกครั้ง จาก Isuzu จึงอาจต้องรอไปถึงปี 2017 – 2018 ก็อาจเป็นได้

22 Feb 2014